ความแตกต่างระหว่างเครื่องบรรจุเครื่องดื่มอัดแก๊ส และเครื่องดื่มทั่วไป

เครื่องบรรจุเครื่องดื่มอัดแก๊ส เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตที่มีความสำคัญมากสำหรับภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจที่เกี่ยวกับเครื่องดื่ม

ซึ่งกระบวนการและการทำงานของเครื่องบรรจุเครื่องดื่มอัดแก๊สก็จะมีความแตกต่างจากเครื่อง

บรรจุสำหรับเครื่องดื่มทั่วไป สาเหตุเพราะเครื่องดื่มอัดแก๊สนั้นมีกระบวนการสำคัญในการบรรจุ เนื่องจากต้องมีการอัดแก๊ส CO2 (Carbonation) เข้าไปภายในบรรจุภัณฑ์ก่อน จากนั้นจึงทำการบรรจุเครื่องดื่มที่ผ่านการอัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) แล้วลงไปในบรรจุภัณฑ์

เพราะหากว่าใช้กระบวนการบรรจุเหมือนเครื่องดื่มทั่วไปจะทำให้เกิดการสูญเสียแก๊ส CO2 ในระหว่างบรรจุ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อความซ่า และรสชาติในเครื่องดื่มนั้นหายไปนั่นเอง

ขั้นตอนการบรรจุเครื่องดื่มอัดแก๊ส

ตามที่กล่าวมา ทำให้วิธีการบรรจุสำหรับเครื่องดื่มอัดแก๊สจะมีความแตกต่างออกไปจากเครื่องบรรจุเครื่องดื่มทั่วไป โดยเรียกว่า “Counter pressure filling” โดยขั้นตอนการบรรจุเครื่องดื่มอัดแก๊ส มีดังต่อไปนี้

1. นำขวดหรือกระป๋อง เข้าเครื่องบรรจุเครื่องดื่มอัดแก๊ส

2. เริ่มจากทำการดูดอากาศออกจากขวด แต่ขั้นตอนนี้จะทำเฉพาะบรรจุภัณฑ์ที่เป็นขวด และไม่ทำกับกระป๋อง เนื่องจากจะทำให้กระป๋องยุบตัวลงและเสียรูป เพราะเนื้อของกระป๋องมีความบางและอ่อนกว่าขวดแก้ว

3. ทำการอัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เข้าไปภายในขวด หรือในกระป๋อง เพื่อไล่อากาศหรือก๊าซออกซิเจน(Oxygen) ออกจากภายในขวด

4. ทำการอัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพื่อทำให้ภายในขวดหรือกระป๋อง มีความดันเกิดขึ้น

5. บรรจุเครื่องดื่มอัดแก๊สเข้าไปที่ก้นขวดหรือกระป๋อง เป็นอันเสร็จสิ้น

ขั้นตอนการบรรจุเครื่องดื่มทั่วไป

สำหรับการบรรจุเครื่องดื่มทั่วไป มีขั้นตอนดังนี้

1. นำขวดหรือกระป๋อง เข้าเครื่องบรรจุเครื่องดื่ม

2. ทำการบรรจุตามปริมาณที่กำหนดไว้แล้วปิดฝาขวด/กระป๋อง แต่จะไม่มีขั้นตอนของการไล่อากาศและไม่ได้อัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เข้าไปเพื่อเพิ่มความดันภายในขวด หรือกระป๋อง ก่อนทำการบรรจุของเหลว เหมือนการบรรจุเครื่องดื่มอัดแก๊ส

โดยสรุปแล้ว เครื่องบรรจุเครื่องดื่มอัดแก๊ส จะมีขั้นตอนเพิ่มเติมในส่วนของการไล่อากาศออกซึ่งเป็นแก๊สที่ก่อให้เกิดการออกซิเดชัน(Oxidation) ในผลิตภัณฑ์ และการอัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เข้าไปภายในขวดหรือในกระป๋อง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้เครื่องบรรจุที่แตกต่างออกไปในการผลิตนั่นเอง ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก เพราะถ้าใช้เครื่องจักรอย่างไม่ถูกต้อง จะส่งผลทำให้ความซ่าลดลง, รสชาติของเครื่องดื่มเปลี่ยนไปจากเดิมและอาจส่งผลต่ออายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์สั้นลงด้วย